เทคนิคเพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อผู้รับเหมา

Last updated: 23 ก.ย. 2568  |  171 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เทคนิคเพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อผู้รับเหมา

บทที่ 7: เทคนิคเพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อผู้รับเหมา

สำหรับผู้รับเหมาที่ต้องการยื่นขอสินเชื่อ การเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติแล้ว ยังทำให้ได้วงเงินสูงขึ้นและเงื่อนไขที่ดีกว่า บทนี้จะพาคุณไปรู้จักเทคนิคที่ผู้รับเหมาควรนำไปปรับใช้

1. จัดเตรียมเอกสารทางการเงินให้ครบถ้วน

เอกสารถือเป็นด่านแรกที่สถาบันการเงินใช้พิจารณา หากผู้รับเหมาส่งเอกสารไม่ครบ โอกาสถูกปฏิเสธสูงมาก ดังนั้นควรเตรียมเอกสารหลัก ๆ เช่น:

  • งบการเงินย้อนหลัง 612 เดือน
  • สำเนาสัญญารับเหมาล่าสุด
  • ทะเบียนการค้า หรือหนังสือรับรองบริษัท
  • เอกสารการเสียภาษีเงินได้
  • เอกสารแสดงทรัพย์สินที่ใช้ค้ำประกัน (ถ้ามี)

หากไม่มั่นใจว่าเอกสารครบถ้วนหรือไม่ สามารถขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เช่นที่ BKL Money ที่พร้อมช่วยตรวจสอบและแนะนำให้ฟรี



2. สร้างประวัติทางการเงินที่ดี

สถาบันการเงินจะตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ย้อนหลัง หากผู้รับเหมามีหนี้ค้างชำระ หรือชำระล่าช้าเกินกำหนด จะทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง ดังนั้นควรรักษาวินัยทางการเงิน เช่น:

  • ชำระหนี้ตรงเวลา
  • ไม่ใช้วงเงินเกินกว่าที่จำเป็น
  • ลดหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

การมีเครดิตทางการเงินที่ดีจะเพิ่มความมั่นใจให้สถาบันการเงินและช่วยให้การอนุมัติเป็นไปได้ง่ายขึ้น

3. วางแผนการเงินและโครงการให้ชัดเจน

ผู้รับเหมาที่สามารถแสดงให้เห็นว่าโครงการมีแผนการเงินที่รอบคอบ จะทำให้สถาบันการเงินมั่นใจมากขึ้น เทคนิคสำคัญคือ:

  • จัดทำ Cash Flow ของโครงการ
  • ระบุแหล่งรายได้ที่ชัดเจน
  • มีแผนสำรองกรณีโครงการล่าช้าหรือรายได้ไม่เป็นไปตามคาด

เอกสารเหล่านี้ช่วยพิสูจน์ว่าผู้รับเหมามีความสามารถในการบริหารเงินกู้ และจะชำระคืนได้ตามกำหนด

4. เลือกสถาบันการเงินที่เหมาะสม

การยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารหรือสถาบันการเงินทั่วไปอาจไม่ตอบโจทย์เสมอไป โดยเฉพาะผู้รับเหมาที่เพิ่งเริ่มต้นหรือขาดหลักประกัน ดังนั้นควรเลือกสถาบันการเงินที่เข้าใจธุรกิจรับเหมาโดยตรง เช่น BKL Money ที่มีบริการเฉพาะทางและเข้าใจความต้องการของผู้รับเหมา

5. ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันอย่างชาญฉลาด

แม้ว่าบางสินเชื่อไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่การมีทรัพย์สินค้ำประกันจะช่วยให้ได้วงเงินสูงขึ้นและดอกเบี้ยถูกลง เช่น ที่ดิน อาคาร หรือรถยนต์ที่ปลอดภาระหนี้ การใช้หลักทรัพย์อย่างเหมาะสมถือเป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้ผู้กู้

6. แสดงความสามารถในการทำกำไร

การแสดงให้เห็นว่าธุรกิจรับเหมามีกำไรอย่างต่อเนื่อง จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่สถาบันการเงิน ควรจัดทำรายงานการเงินที่ชัดเจน พร้อมหลักฐานสัญญาว่าจ้างในอนาคต เพื่อพิสูจน์ว่าธุรกิจมีศักยภาพจริง

7. ใช้บริการที่ปรึกษาทางการเงิน

ผู้รับเหมาหลายรายมักพลาดโอกาสเพราะไม่รู้วิธีนำเสนอข้อมูลต่อสถาบันการเงิน การใช้บริการที่ปรึกษา เช่นทีมงานของ BKL Money จะช่วยให้การเตรียมเอกสารและการเจรจาง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว

8. รักษาความน่าเชื่อถือในอุตสาหกรรม

ชื่อเสียงของผู้รับเหมาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สถาบันการเงินพิจารณา หากธุรกิจมีผลงานที่ดี ลูกค้าพึงพอใจ และไม่มีประวัติเสียหาย จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและทำให้การอนุมัติง่ายขึ้น

สรุป

การขอสินเชื่อผู้รับเหมาไม่ใช่เรื่องยาก หากผู้ประกอบการรู้จักเตรียมความพร้อมอย่างถูกวิธี ตั้งแต่การจัดเอกสาร การสร้างเครดิตทางการเงิน การวางแผนโครงการ ไปจนถึงการเลือกสถาบันการเงินที่เข้าใจธุรกิจของคุณ การนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้จะช่วยให้โอกาสอนุมัติสูงขึ้น ได้วงเงินมากขึ้น และดอกเบี้ยที่คุ้มค่ากว่า

หากคุณต้องการขอคำปรึกษาฟรีเกี่ยวกับการขอสินเชื่อผู้รับเหมา คลิกที่นี่เลย 


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้