ประเภทของสินเชื่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างต้องการเงินทุนที่ยืดหยุ่นและเหมาะสมกับลักษณะงานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในปี 2025 ผู้ประกอบการไทยควรรู้จักประเภทสินเชื่อหลัก ๆ เพื่อเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม
1. สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital Loan)
สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนถือเป็นประเภทที่ผู้รับเหมาส่วนใหญ่เลือกใช้มากที่สุด เนื่องจากธุรกิจรับเหมามีค่าใช้จ่ายประจำต่อเนื่อง เช่น ค่าแรงรายวัน ค่าเช่าเครื่องจักร และค่าวัสดุก่อสร้าง แต่รายได้จริงกลับเข้ามาเป็นงวด ๆ การมีเงินทุนหมุนเวียนจึงจำเป็นอย่างยิ่ง
ในปี 2025 ปัญหาที่พบมากคือการเบิกจ่ายงวดงานล่าช้าถึง 6090 วัน สินเชื่อหมุนเวียนจาก BKL Money ช่วยให้ผู้รับเหมาจ่ายค่าแรงและค่าวัสดุได้ทันเวลา ลดความเสี่ยงที่โครงการหยุดชะงัก
จุดเด่น: ยืดหยุ่น ใช้จ่ายได้หลายวัตถุประสงค์ ชำระคืนเมื่อได้เงินงวดงาน
2. สินเชื่อโครงการก่อสร้าง (Project Loan)
เมื่อผู้ประกอบการได้รับงานใหม่ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ จำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมากตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการวางมัดจำวัสดุ ค่าแรงก้อนแรก หรือค่าประกันผลงาน สินเชื่อโครงการจึงตอบโจทย์ได้ดี
โดยทั่วไป สินเชื่อประเภทนี้จะพิจารณาตามสัญญาจ้างและมูลค่าโครงการ หากผู้รับเหมามีเอกสารยืนยันการได้งาน เช่น สัญญากับหน่วยงานรัฐหรือบริษัทเอกชนที่มีเครดิตดี ก็มีโอกาสได้รับอนุมัติวงเงินสูง
ในปี 2025 ความต้องการ Project Loan เพิ่มขึ้นตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น มอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้าสายใหม่ และนิคมอุตสาหกรรม
จุดเด่น: วงเงินสูง สอดคล้องกับมูลค่าโครงการ ชำระคืนได้ตามงวดงาน
3. สินเชื่อเพื่อซื้อวัสดุก่อสร้าง (Material Loan)
ราคาวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูน เหล็ก และน้ำมัน มีความผันผวนสูงในปี 2025 ผู้รับเหมาที่ต้องซื้อวัสดุปริมาณมากตั้งแต่ต้นโครงการอาจใช้เงินสดไม่เพียงพอ การกู้สินเชื่อเพื่อซื้อวัสดุจึงช่วยให้สามารถสั่งซื้อได้ทันทีและได้ราคาที่คุ้มค่า
นอกจากนี้ การซื้อวัสดุจำนวนมากในช่วงราคาต่ำ ยังช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไรให้กับผู้ประกอบการ
จุดเด่น: เหมาะสำหรับควบคุมต้นทุนวัสดุ และป้องกันความเสี่ยงด้านราคาผันผวน
4. สินเชื่ออุปกรณ์และเครื่องจักร (Equipment Loan)
งานก่อสร้างหลายประเภทต้องใช้เครื่องจักรเฉพาะ เช่น เครน รถแบคโฮ หรือเครื่องจักรสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ การซื้อหรือเช่าเครื่องจักรเหล่านี้ต้องใช้เงินทุนสูง
สินเชื่ออุปกรณ์และเครื่องจักรช่วยให้ผู้รับเหมาสามารถลงทุนได้ทันที โดยไม่ต้องใช้เงินสดก้อนใหญ่ และยังสามารถผ่อนจ่ายได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
จุดเด่น: สนับสนุนการลงทุนด้านเครื่องจักร เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน
5. สินเชื่อสะพาน (Bridge Loan)
บางครั้งผู้รับเหมาจำเป็นต้องใช้เงินด่วนระหว่างรอการเบิกจ่ายงวดงานหรือเงินจากโครงการใหม่ สินเชื่อสะพานช่วยเชื่อมระหว่างช่วงเวลานั้น ทำให้กิจการไม่สะดุด
ในปี 2025 สินเชื่อประเภทนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะการจ่ายเงินของหลายโครงการยังคงล่าช้า
จุดเด่น: ได้เงินเร็ว ช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่องชั่วคราว
การเลือกประเภทสินเชื่อให้เหมาะสม
การเลือกสินเชื่อควรขึ้นอยู่กับลักษณะโครงการ ขนาดธุรกิจ และความสามารถในการชำระคืน ตัวอย่างเช่น:
- ผู้รับเหมาขนาดเล็ก ควรเน้น สินเชื่อหมุนเวียน เพื่อใช้จ่ายประจำ
- ผู้รับเหมาขนาดกลางใหญ่ เหมาะกับ Project Loan สำหรับโครงการมูลค่าสูง
- ผู้ที่ต้องซื้อวัสดุจำนวนมาก ใช้ Material Loan เพื่อลดต้นทุน
- บริษัทที่เน้นเครื่องจักร เลือก Equipment Loan
การเข้าใจประเภทสินเชื่อและเลือกใช้ให้ถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จของธุรกิจ
สรุป
ประเภทของสินเชื่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในปี 2025 มีความหลากหลายมากขึ้น ผู้ประกอบการจึงควรศึกษาและเลือกประเภทที่สอดคล้องกับความต้องการจริง ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนหมุนเวียน สินเชื่อโครงการ หรือสินเชื่อเพื่อซื้อวัสดุ ทั้งหมดนี้มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจรับเหมา
หากคุณต้องการคำปรึกษาเรื่องสินเชื่อ สามารถติดต่อได้ที่ www.bklmoney.com เพื่อหาทางเลือกทางการเงินที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ